"การห้ามใช้พลาสติก" มีผลบังคับใช้ และแวววาวและไมโครบีดส์จะค่อยๆ ถอนตัวออกจากเวทีแห่งประวัติศาสตร์

ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม เป็นต้นไป เพื่อตอบสนองต่อกฎระเบียบล่าสุดของคณะกรรมาธิการยุโรปในการจำกัดมลพิษจากไมโครพลาสติก กลิตเตอร์และเลื่อมจำนวนมากในเครื่องสำอางจะค่อยๆ หายไปจากชั้นวางของร้านค้าทั่วสหภาพยุโรป และสิ่งนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการซื้อกลิตเตอร์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเยอรมนี

ปัจจุบัน ข้อจำกัดแรกๆ ภายใต้กฎใหม่คือเกี่ยวกับกลิตเตอร์และเลื่อมแบบหลวมๆ รวมถึงไมโครบีดส์ในผลิตภัณฑ์เสริมความงามบางชนิด เช่น สครับขัดผิวและสครับสำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ การห้ามจะมีผลหลังจาก 4-12 ปีตามลำดับ ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับผลกระทบมีเวลาเพียงพอในการพัฒนาและเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกอื่นการห้ามใช้ไมโครบีดส์พลาสติกในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะมีผลใน 5 ปี และระยะเวลาสำหรับผลิตภัณฑ์เช่นลิปสติกและยาทาเล็บจะขยายเป็น 12 ปี
มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประกาศกฎระเบียบโดยคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 25 กันยายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจดทะเบียน การอนุญาต และข้อจำกัดของกฎระเบียบด้านสารเคมี REACH ของยุโรปเป้าหมายของกฎระเบียบใหม่คือการควบคุมอนุภาคโพลีเมอร์สังเคราะห์ทั้งหมดที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มม. ที่ไม่ละลายน้ำและทนทานต่อการย่อยสลาย

Thierry Breton กรรมาธิการตลาดภายในของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในการแถลงข่าวของสหภาพยุโรปว่า "ข้อจำกัดนี้ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสีเขียวของอุตสาหกรรมในสหภาพยุโรป และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ปราศจากไมโครพลาสติก ตั้งแต่เครื่องสำอางไปจนถึงผงซักฟอกไปจนถึงพื้นผิวกีฬา"

เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มทั่วไปของการห้าม เป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่การใช้ไมโครบีดพลาสติกจะถูกจำกัดในทุกหมวดหมู่ และกระแสโลกาภิวัตน์ของมาตรการนี้จะส่งเสริมการพัฒนาของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไปสู่การสร้างมาตรฐาน ความปลอดภัย และความยั่งยืน